Building-Home-inspection
รับตรวจสอบบ้าน ตรวจบ้าน ตรวจคอนโด ตรวจบ้านมือสอง รับตรวจสอบอาคาร ตามพรบ.ควบคุมอาคาร รับตรวจสอบโครงสร้างอาคาร ตรวจสอบรอยร้าว การทรุดตัว แก้ไขฐานราก เสริมเสาเข็ม ติดต่อ ผู้ตรวจสอบ tel.081-938-6116 or www.nsplusengineering.com
ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อก เพื่อความรู้ พร้อมให้คำปรึกษาทุกเรื่องเกี่ยวกับงานก่อสร้าง
ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อก เพื่อความรู้ พร้อมให้คำปรึกษาทุกเรื่องเกี่ยวกับงานก่อสร้าง ปัญหา การแก้ไขซ่อมแซม เสริมเสาเข็ม ฐานรากอาคาร
วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554
พอดีที่บ้านเป็นตึกแถว ทุกครั้งที่ฝนตกพื้นดาดฟ้าจะรั่วและรั่วมากขึ้นเรื่อยๆ เคยเทปูนทับก็ไม่หาย ปูกระเบื้องทับก็ไม่หาย ตอนนี้ท้องพื้นด้านล่างคอนกรีตล่อนออกมาเป็นแผ่นๆ เห็นเหล็กเป็นสนิมอยู่ทั่วไป กังวลใจมาก ไม่ทราบควรแก้ไขอย่างไรดีครับ
คำถาม
พอดีที่บ้านเป็นตึกแถว ทุกครั้งที่ฝนตกพื้นดาดฟ้าจะรั่วและรั่วมากขึ้นเรื่อยๆ เคยเทปูนทับก็ไม่หาย ปูกระเบื้องทับก็ไม่หาย ตอนนี้ท้องพื้นด้านล่างคอนกรีตล่อนออกมาเป็นแผ่นๆ เห็นเหล็กเป็นสนิมอยู่ทั่วไป กังวลใจมาก ไม่ทราบควรแก้ไขอย่างไรดีครับ
ตอบ
พอดีที่บ้านเป็นตึกแถว ทุกครั้งที่ฝนตกพื้นดาดฟ้าจะรั่วและรั่วมากขึ้นเรื่อยๆ เคยเทปูนทับก็ไม่หาย ปูกระเบื้องทับก็ไม่หาย ตอนนี้ท้องพื้นด้านล่างคอนกรีตล่อนออกมาเป็นแผ่นๆ เห็นเหล็กเป็นสนิมอยู่ทั่วไป กังวลใจมาก ไม่ทราบควรแก้ไขอย่างไรดีครับ
ตอบ
ช่างส่วนใหญ่เข้าใจว่า เวลาเกิดน้ำรั่ว ไม่ว่าจะเป็นดาดฟ้า หรือหลังคากระเบื้อง นำปูนไปอุดบ้าง เทปูนทับรอยรั่วบ้าง หรือเทปรับระดับดาดฟ้าทับลงไปบ้าง นับเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ผิดพลาดอย่างมาก เนื่องจาก
1. การเทปูนทับหรือการปูกระเบื้องทับเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับโครงสร้างและอาจลดสัดส่วนความปลอดภัยของอาคารลง เช่น การเทปูนทับหรือปูกระเบื้องบนดาดฟ้าในความหนา 5 ซม. เป็นการเพิ่มน้ำหนักกับโครงสร้างถึง 120 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ในขณะที่วิศวกรออกแบบน้ำหนักบรรทุกจรของดาดฟ้า เพียง 100 กิโลกรัมต่อตารางเมตร เป็นต้น
2. ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะยาวได้ เนื่องจากคอนกรีตหรือปูนทรายที่เทใหม่ ไม่สามารถยึดติดเป็นเนื้อเดียวกันกับคอนกรีตเก่าได้สนิท เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง น้ำจะไหลลอดระหว่างรอยต่อคอนกรีตตรงนั้นและรั่วลงมาเหมือนเดิม
ไม่แน่ใจสภาพความเสียหายนะครับ แนะนำเป็น 3 วิธี ใน 3 เงื่อนไขที่แตกต่างกันนะครับ
1. กรณีเหล็กเป็นสนิมดันคอนกรีตล่อนกะเทาะ เนื้อที่ประมาณไม่เกิน 20% ของพื้นที่ทั้งหมด
- ทำระบบกันซึมด้านบนดาดฟ้าที่เป็นด้านรับน้ำซึ่งมีหลายวิธี เช่น ระบบอะครีลิคกันซึม โพลียูริเทนกันซึม ระบบซึเมนต์กันซึม เป็นต้น
- สกัดเปิดคอนกรีตคุณภาพต่ำออก เปิดปากแผล ให้ถึงคอนกรีตคุณภาพดี
- ใช้แปรงขัดสนิมออกหรือทาน้ำยาเปลี่ยนสนิมเหล็กในกรณีที่เป็นสนิมผิว หรือ ถ้ามีการผุกร่อนของเหล็กมากเข้าไปในเนื้อเหล็กหรือสนิมขุม ให้ตัดเหล็กเดิมออกจนถึงเหล็กที่ดี แล้วทาบเหล็กขนาดเดียวกันมัดทาบตามระยะทาบที่วิศวกรกำหนดทั้ง 2 ด้าน
- ใช้ Repair Mortar หรือ ปูนซ่อมโครงสร้าง ซึ่งมีหลายยี่ห้อในท้องตลาด เช่น ทำการ Patching หรือใช้เกรียงเหล็กฉาบอัดเป็นชั้นๆ ให้เต็มตามระนาบพื้นเดิม ตบแต่งผิวด้วยการฉาบทั่วไป ย้ำว่าต้องใช้ Repair Mortar เท่านั้น ห้ามใช้ปูนผสมทรายทั่วไปมาฉาบเนื่องจากมีการหดตัวมาก และความแข็งแรงต่ำ
2. กรณีเหล็กเป็นสนิมดันคอนกรีตล่อนกะเทาะ เนื้อที่ 20-50% ของพื้นที่ทั้งหมด
- ทำการสกัดเปิดคอนกรีตและซ่อมแซมเหล็กเสริมพื้นเช่นเดียวกับ ข้อ 1
- เข้าแบบท้องพื้นด้านล่าง โดยให้ระดับเสมอกับพื้นโครงสร้างเดิม และเจาะพื้นด้านบนให้เป็นรูประมาณ 10 ซม. ตามตำแหน่งที่คาดว่า จะสามารถกรอกปูนลงไปได้ทั่วถึงพื้นที่ซ่อมแซมได้โดยตลอด
- เทคอนกรีตกำลังสูงไม่หดตัว (Non-Shrink Grout) และรื้อแบบออกเมื่อคอนกรีตได้อายุ
- ฉาบตบแต่งผิวคอนกรีตท้องพื้นที่เทใหม่
- ทำระบบกันซึมด้านบนดาดฟ้าที่เป็นด้านรับน้ำซึ่งมีหลายวิธี เช่น ระบบอะครีลิคกันซึม โพลียูริเทนกันซึม ระบบซึเมนต์กันซึม เป็นต้น
3. กรณีเสียหายมากกว่า 50%
- ทุบแล้วทำใหม่เถอะครับ เพราะถ้าคุณทำ 2 วิธีแรก อาจค่าใช้จ่ายสูงกว่า
- เมื่อทำใหม่แล้ว แนะนำว่าควรทำระบบกันซึมด้วยนะครับ
ขอบคุณ www.aes-service.com
เสาเข็มมีกี่อย่าง แล้วจะเลือกใช้อย่างไร?
เสาเข็มโดยทั่วไปจะแยกออกได้เป็นสำคัญ 2 ประเภทคือ เสาเข็มตอก และ เสาเข็มเจาะ (ส่วน เสาเข็ม พิเศษอื่น ๆ เช่น Micro Pile นั้น หากไม่ใช่วิศวกรก็ไม่น่าจะไปสนใจ)… เสาเข็มตอก และเสาเข็มเจาะเอง ก็ยังแยกออกได้ เป็นอย่างละอีก 2 ประเภท ซึ่งโดยสรุปรวม วิธีการทำงาน และจุดดีจุดด้อย น่าจะสรุป พอเป็นสังเขป ได้ดังต่อไปนี้ :
1. เสาเข็มตอกทั่วไป จะ มีหน้าตาต่าง ๆ กัน บางทีก็เป็นสี่เหลี่ยม บางทีก็เป็นหกเหลี่ยม บางทีก็เป็นรูปตัวไอ ซึ่งทุกอย่าง จะมีหน้าตัดตันทั้งต้น เวลาตอก ก็ตอกลงไปง่าย ๆ อย่างที่เราเห็นกันโดยทั่วไป
2. เสาเข็มกลมกลวง เป็นเสาเข็มที่สามารถรับแรงได้มากกว่าเสาเข็มแบบแรก เพราะสามารถ ทำให้โตกว่าได้ ผลิตโดย การปั่นหมุนคอนกรีต ให้เสาเข็มออกมา กลมและกลวง เวลาติดตั้ง ส่วนใหญ่ จะขุดเป็นหลุมก่อน แล้วกดเสาเข็มลงไป พอถึงระดับ ที่ต้องการ จึงจะเริ่มตอก ทำให้มีส่วนของเสาเข็ม ไปแทนที่ดินน้อยลง (ดินถูกขุดออกมาบางส่วนแล้ว) อาคารข้างเคียงเดือดร้อนน้อยลง จากการเคลื่อนตัวของดิน (แต่ความดัง ฝุ่นละออง และความสะเทือน ก็ยังคงอยู่)
3. เสาเข็มเจาะแบบแห้ง เป็น ระบบเสาเข็มเจาะขนาดเล็ก ส่วนใหญ่จะลึกไม่เกิน 20 เมตร (แล้วแต่ ระดับ ชั้นทราย) รับน้ำหนักต่อต้น ได้ไม่เกิน 120 ตัน วิธีการคือเจาะดินลงไป (แบบแห้ง ๆ ) แล้วก็หย่อนเหล็ก เทคอนกรีต ลงไปในหลุม… ราคาจะแพงกว่าระบบเข็มตอก แต่เกิดมลภาวะน้อยกว่ามาก ทั้งเรื่องการ เคลื่อนตัวของดิน ความสั่นสะเทือน ฝุ่นละออง จึงเป็นที่นิยมใช้ ในที่ที่มีคนอยู่หนาแน่น
4. เสาเข็มเจาะแบบเปียก ทำเหมือนเสาเข็มเจาะแห้ง แต่เวลาขุดดินจะขุดลึก ๆ แล้วใส่สารเคมีลงไป เคลือบผิวหลุมดิน ที่เจาะ ทำหน้าที่เป็นตัวยึดประสานดินและดันดินไม่ให้พังทลายลงเวลาเจาะลึก ๆ (ซึ่งสามารถเจาะได้ลึกถึงกว่า 70 เมตร) รับน้ำหนักได้มากและเกิดมลภาวะน้อย ราคาแพง ส่วนการเลือก ว่าจะใช้เข็มแบบไหนดีนั้น ต้องตั้งข้อสังเกตุ ปัญหาก่อน แล้วเปรียบเทียบ ความจำเป็น- ความเป็นไปได้ ของแต่ละระบบ ในแต่ละงาน โดยยึดถือ ข้อหลักประจำใจ ในการพิจารณาดังนี้ :
ก.) ราคา
ข.) บ้านข้างเคียง (มลภาวะ)
ค.) ความเป็นไปได้ในการขนส่งเข้าหน่วยงาน
ง.) เวลา (ทั้งเวลาทำงาน และเวลาที่ต้องรอคอย)
ในการเลือกระบบเสา เข็ม นี้ ต้องให้วิศวกรออกแบบเสาเข็มและฐานรากหลาย ๆ แบบดู (อย่าเกิน 3 แบบ) ต้องวิเคราะห์รวม (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องราคา และเวลา) ของเสาเข็ม และฐานราก จึงจะใช้ เป็น ข้อยุติได้ (หลีกเลี่ยง เสาเข็มราคาถูก ทำเร็ว แต่ทำให้ฐานรากราคาแพงและล่าช้า ทำให้ทั้งโครงการ ล่าช้าไปหมด)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.aes-service.com
วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
การตรวจสภาพบ้านมือสอง ก่อนตัดสินใจซื้อ
ก่อนการซื้อบ้านมือสอง หลายท่านคงดูแต่เรื่อง ทำเล, ราคา และสภาพความใหม่ของตัวบ้าน ว่าเหมาะสมกับราคา ที่ท่านจะต้องจ่ายหรือไม่ ถูกแพงอย่างไร แต่บทความนี้ ผมขอจะพูถึงเรื่องการตรวจสภาพโครงสร้างของบ้านมือสอง ว่า มีอะไรผิดปรกติหรือเปล่า และอาจให้ข้อแนะนำที่บางข้อที่หลายท่านอาจจะมองข้ามไป ก่อนการซื้อนะครับ
การตรวจสภาพโครงสร้าง ของอาคาร หรือบ้านมือสอง ก็มีความสำคัญมาก หลายๆท่านอาจมองข้ามไป เพราะมัวแต่ดูเรื่องทำเล, ราคา และสภาพเก่าใหม่ของบ้านเท่านั้น การมองข้ามเรื่องบางเรื่องไป อาจจะเสียใจไปจนตายก็ได้ เพราะการแก้ไขโครงสร้างบางอย่าง อาจทำไม่ได้ หรือทำแล้วไม่คุ้มค่า ดังนั้นผมขอให้ข้อเสนอแนะการดูสภาพบ้านไว้เป็นข้อๆละกันนะครับ
การตรวจสภาพโครงสร้าง ของอาคาร หรือบ้านมือสอง ก็มีความสำคัญมาก หลายๆท่านอาจมองข้ามไป เพราะมัวแต่ดูเรื่องทำเล, ราคา และสภาพเก่าใหม่ของบ้านเท่านั้น การมองข้ามเรื่องบางเรื่องไป อาจจะเสียใจไปจนตายก็ได้ เพราะการแก้ไขโครงสร้างบางอย่าง อาจทำไม่ได้ หรือทำแล้วไม่คุ้มค่า ดังนั้นผมขอให้ข้อเสนอแนะการดูสภาพบ้านไว้เป็นข้อๆละกันนะครับ
- ก่อนอื่นตรวจค้นหาร่องรอยการต่อเติม การตรวจค้นหาร่องรอยการต่อเติมสมควรทำอย่างยิ่ง เพื่อที่เราจะได้ทราบประวัติการต่อเติมต่างๆของบ้านว่า บ้านหลังนี้ทำอะไรมาบ้าง เช่น ต่อครัว ต่อห้อง เพิ่มชั้นลอย ฯ แล้วสังเกตุทำการต่อเติมได้ดีหรือไม่ดีอย่างไร วิธีที่ง่ายที่สุดในการหาร่องรอยการต่อเติมคือการถามเจ้าของเดิมครับ แต่ถ้าถามแล้วไม่ทราบ วิธีสังเกตุคือ ให้เดาลักษณะของบ้านเก่า ว่าควรมีหน้าตาอย่างไร (อาจดูจากข้างบ้านแล้วเทียบกัน) แล้วสังเกตุส่วนที่ไม่เหมือนกัน
- ตรวจรอยต่อระหว่างอาคาร ในบริเวณอาคารเก่ากับอาคารใหม่ โดยปรกติแล้วการต่อเติมอาคารที่ถูกต้องคือ ต้องทำการต่อเติมใ
ห้โครงสร้างอาคารเก่ากับอาคารใหม่แยกจากกันโดยสิ้นเชิงครับ ตัวอย่างเช่น การต่อเติมพื้นที่ห้องเพิ่มขยายไปยังพื้นที่ว่างด้านนอก ต้องต่อออกมาในลักษณะเป็นอีกอาคารนึงเลยแต่มาชิดกันเท่านั้น ไม่ได้เป็นการฝากโครงสร้างใหม่เข้ากับโครงสร้างเก่า (ดูรูป) เพราะการฝากโครงสร้างที่ทำใหม่ กับอาคารเดิมจะเกิดการทรุดตัวที่ไม่เท่ากัน มีผลทำให้อาคารวิบัติ(พัง) มาเยอะแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ควรต้องสังเกตุคือ รอยต่อระหว่างอาคาร ในบริเวณอาคารเก่ากับอาคารใหม่ ต้
องเป็นรอยต่อที่ไม่มีการแตกร้าวที่เกิดจากการดึงกัน ระหว่างโครงสร้าง 2 ส่วน เพราะเป็นสาเหตุของอาคารวิบัติคัรบ แต่รอยร้าวที่เกิดขึ้นจากอาคารสองส่วนที่ทรุดตัวไม่เท่ากันอาจยอมรับได้ถ้าการเป็นการต่อเติมเป็นการต่อเติมที่ถูกต้อง(ดูรูป)
- ตรวจรอยร้าว จริงๆแล้วรอยร้าว ไม่มีเลยจะดีที่สุดครับ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรรู้ว่ารอยร้าวของอาคารมีหลายประเภท หลายสาเหตุครับ แต่อยากให้สังเกตุไว้ว่ารอยร้าวแบบที่พอจะรับได้คือรอยร้าววที่มาจากการเสื่อมของวัสดุบนกำแพง เพราะมันพอจะแก้ไขได้ไม่ยากครับ วิธีสังเกตุคือ รอยร้าวประเภทนี้จะเป็นรอยร้าวแบบแตกระแหง มั่วไปมั่วมา ไม่เป็นแนวยาวเป็นทางเดียวต่อเนื่องกันครับ ส่วนรอยร้าวที่โครงสร้างหลักเช่น เสา คาน พื้น หรือ รอยร้าวบนผนังที่เป็นแนวยาวผิดสั้งเกตุ มันเป็นการบ่งบอกว่าอาคารมีปัญหา ควรหลีกเลี่ยงไว้ก่อน เพราะอาจเป็นการทรุดตัว หรือการรับน้ำหนักมากเกินไป หรือไม่ก็เป็นลางที่บอกว่า อาคารใกล้จะพัง
- สังเกตุระดับอาคาร เทียบกับถนน ให้ดูว่าบ้านนี้ระดับพื้นชั้นล่างต่ำเกินไปไหมในอนาคต เพราะถนนจะต้องถมให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราไม่สงเกตุตรงนี้อนาคตถนนมาการยกพื้นก็เป็นเรื่องที่ทำกันไม่ได้ง่ายๆ
- สังเกตุร่องรอยการยกพื้นหรือการถมดิน ข้อควรจำคือเมื่อยกพื้นขึ้นโดยการเทคอนกรีต หนา 10 เซนต์ จะเพิ่มน้ำหนักให้อาคารถึง 240 กก.ต่อตารางเมตร ถ้ามากกว่านี้ก็เพิ่มไปอีก แต่บ้านพักอาศัยเดิมๆ วิศวกรออกแบบสำหรับการรับน้ำหนักไว้ประมาณ 200 กก. ต่อตารางเมตรเท่านั้น ถ้าเพิ่มน้ำหนักให้บ้านไปมากๆ ก็คิดดูเอาเองครับ ดังนั้น การถมดิน การยกพื้นของบ้านควรพิจารณาดีๆ อีกอย่างที่ควรสังเกตุ คือบ้านมือสองในบริเวณพื้นที่ๆมีน้ำท่วม เขายกพื้นกันทุกบ้านแหละครับ
- สังเกตุการใช้งานผิดประเภทของอาคาร เช่นใช้บ้าน มาทำเป็นที่เก็บของ ดัดแปลงเพิ่มห้องน้ำบนดาดฟ้าเดิม หรือต่อระเบียงออกมาเป็นห้องนอน เรื่งพวกนี้ล้วนแต่เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้อาคารโดยไม่ตั้งใจทั้งนั้น
- ขอแบบแปลนเดิม(ถ้าเป็นไปได้).
- ดูเรื่องเทศบัญญัติ และกฏหมาย การซื้อบ้านหรืออาคารที่ต่อเติม หรือการสร้างแบบผิดกฎหมาย ยังไงมันก็เป็นเหมือนซื้อของผิดกฏหมาย เป็นชงักติดหลังไปเรื่อยๆ ครับ ไม่มีทางแก้ได้จนกว่า จะรื้อถอนและสร้างให้ถูกกฏมาย แต่ที่ผมเห็นโดยส่วนใหญ่เกือบทุกหลังก็ทำกัน ที่ไม่เป็นอะไร ไม่มีปัญหา เพราะการใช้กฏหมายประเทศไทยไม่แข็งแรงครับ เชื่อหรือไม่ว่าอาคารบางหลัง หรือบ้านบางบ้าน ถูกหมายจากเจ้าหน้าที่ให้รื้อถอนเนื่องจากการก่อสร้างหรือการต่อเติมที่ไม่ถูกต้อง มาเป็น 10 ปีก็ยังไม่แก้ ต้องเสียค่าปรับ แต่ไม่จ่าย ดังนั้นค่าปรับก็เดินไปเรื่อยๆ บางที่ค้างตรงนี้เป็นล้าน ก็มี แต่ก็อยู่อย่างปรกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เฮ๊อ...เหนื่อยประเทศไทย
อ้างอิงจาก คุณ สุระพงศ์
วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554
ทำไมอาคารจึงทรุดตัวและการทรุดตัวมีสาเหตุหลักๆ มาจากอะไร
ทำไมอาคารจึงทรุดตัวและการทรุดตัวมีสาเหตุหลักๆ มาจากอะไร | |
ปัจจุบันแล้วปัญหาที่ได้ยินเยอะมากในปัจจุบันคือ ปัญหาบ้านทรุดเอียงตัว บ้างก็บ้านร้าวจากการทรุดดังกล่าวนั้นอีก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพ พื้นที่ลุ่มและมีการสูบน้ำใช้กันมากจนรากฐานของดินมันไม่มีน้ำคอยอุ้มตัว แต่นอกเหนือจากปัญหาการใช้น้ำบาดาลจนบ้านทรุดเอียงตัวนั้น ยังมีสาเหตุอื่นๆ อีกที่ทำให้บ้านสวยของเราต้องเจอกับเรื่องปัญหารบกวนรำคาญใจเหล่านี้ ลองอ่านจากบทความเหล่านี้ดูนะครับว่า บ้านเราทรุดเพราะเหตุอะไรกันบ้าง สาเหตึุอะไรทำให้บ้างเอียงตัว และ อะไรทำให้บ้านเรามีรอยร้าวได้บ้าง 1. การก่อสร้างอาคารในระบบฐานรากตื้น เช่น ใช้เสาเข็มสั้น 6 เมตร, เข็มไม้, ฐานรากแผ่, หรือพื้นชนิดวางบนดิน โดยเฉพาะชั้นดินในกรุงเทพและปริมณฑล ดินชั้นบนมีลักษณะเป็นดินเหนียวอ่อน เกิดการยุบอัดตัว หรือทรุดตัวได้มาก กรณีเช่นนี้ถือว่าไม่อันตรายแต่อย่างใด ถ้าโครงสร้างมีการทรุดตัวเท่าๆ กัน 2. การก่อสร้างที่ใช้ระบบฐานรากแตกต่างกัน เช่น งานต่อเติม, ดัดแปลง เป็นต้น ในกรณีนี้ถ้าดำเนินการก่อสร้างไม่ถูกหลักวิศวกรรม ไม่มีการตัด Joint หรือมีการเชื่อมโครงสร้างส่วนหนึ่งส่วนใดเข้ากับตัวบ้าน อาจเกิดการทรุดตัวไม่เท่ากัน, ทรุดร้าว, ทรุดเอียง ถ้ามีการเชื่อมโครงสร้างกับโครงสร้างเดิม อาจเกิดการยึดรั้งและส่งผลกับโครงสร้างเดิมด้วย โดยถ้าโครงสร้างหลักมีการแตกร้าวถือว่าเป็นการทรุดที่อันตราย 3. ความบกพร่องของเสาเข็มเอง เช่น เสาเข็มหัก, เสาเข็มชำรุด, เสาเข็มเดี่ยวเยื้องศูนย์, ฐานรากพลิก, เสาเข็มตอกไม่ได้ Blow Count เป็นต้น ส่วนใหญ่จะรู้เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วเกิดความบกพร่องให้เห็น เช่น ผนังร้าวในแนวทแยง 45 องศา คล้ายๆ กันในทุกชั้น, มีเสียงโครงสร้างลั่น เป็นต้น ถือเป็นการทรุดที่อันตรายและจำเป็นต้องรีบแก้ไขเช่นเดียวกัน 4. การออกแบบฐานรากที่ผิดพลาด เช่น ไม่มีการเจาะสำรวจดิน, น้ำหนักบรรทุกจริงที่ถ่ายลงเสาเข็มต่อต้น ในแต่ละฐานรากไม่เท่ากัน เป็นต้น |
วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
บ้านทรุด สังเกตจากอะไร
บ้านทรุด สังเกตจากอะไร


" ข้อสังเกตุ ของบ้านร้าว บ้านทรุดกัน " เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าน๊ะครับ
บ้านร้าว บ้านทรุด ตึกแถวทรุด จะดูจากอะไร สังเกตได้อย่างไร
ขอแนะนำการสังเกตุจากสิ่งต่างๆ เหล่านี้
1) ประตูหน้าต่างเริ่มปิด - เปิดไม่สะดวก
2) มีรอยร้าวเฉียงๆ 45 องศา ที่ผนังรอยร้าวเป็นแบบเส้นเดียว ร้าวไปเรื่อยๆ ไม่หยุด
3) มีเศษปูนหล่นร่อนจากพื้น, จากเสา, จากคาน
4) มีเสียงลั่นดัง ในเวลาที่เงียบๆ ลักษณะเหมือนบ้านร้องได้
5) มีรอยแตกร้าว ที่พื้นตามมุมเสา
6) งานระบบ ท่อประปา เริ่มมีการชำรุด
* ข้อสังเกต 6 ข้อ ดังกล่าวเป็นข้อสังเกตเบื้องต้นที่ดำเนินการด้วยตาเปล่า การวินิจฉัยหาสาเหตุร่วม ในรายละเอียด
ต้องใช้เครื่องมือทางวิศวกรรม ใช้วิศวกรเป็นผู้วินิจฉัยหาสาเหตุ และ แนวทางแก้ไข โดยเฉพาะใน 3 ข้อแรก จะเป็นอาการหลักๆ ของบ้านที่ทรุด
* บ้านที่ทรุดตัว มีหลายสาเหตุต้องวินิจฉัยเป็นกรณี แล้วทำการซ่อมอย่างถูกวิธี หากการซ่อมไม่ถูกวิธีแล้ว บ้านก็จะทรุดตัวต่อไปเรื่อยๆ ถึงขั้นอันตรายมาก
* บ้านทรุด ต้องเร่งแก้ไข เพราะเมื่ออาการทรุดเกิดขึ้น ย่อมมีความเสียหายที่ตามมา คือ ผนังร้าวน้ำเข้าบ้านได้ เศษปูนหลุดออกมามองเห็นเหล็ก เหล็กเป็นสนิมกำลังโครงสร้างลดลง โดยเฉพาะเสา ถ้าเสาชำรุดมาก บ้านทั้งหลังอาจถล่มลงมาได้.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)